Skip to main content

Case Study 57

ลูกค้าเป็นนักเรียน อายุ 10 ปี เป็นลูกค้าเดิมของทางร้าน มาตามนัด 6 เดือน เพื่อติดตามอาการโรคตาขี้เกียจที่ร้านตรวจเจอจากครั้งก่อนที่มาวัดสายตาที่ร้าน ในเคสนี้ลูกค้ารู้ตัวตอนทำกิจกรรมที่โรงเรียนตอนคุณครูให้ปิดตาทีละข้าง จึงพบว่ามีตาข้างนึงมองไม่ชัดและเข้ามาวัดสายตาที่ร้าน

ค่าสายตาเดิมของลูกค้า

R : + 0.25 - 0.50 x 180 วัดความสามารถในการมองเห็นได้10 /10 คะแนน

L : + 2.50 - 3.50 x 180 วัดความสามารถในการมองเห็นได้ 4 /10 คะแนน

หลังจากแก้ปัญหาสายตาด้วยเลนส์แว่นตาแล้ว ยังอ่านได้คะแนนน้อยกว่า 5 /10 ถือว่าเป็นตาขี้เกียจ

ทางร้านวัดสายตาใหม่

R : + 0.25 - 0.50 x 180 วัดความสามารถในการมองเห็นได้ 10 /10 คะแนน

L : + 2.50 - 3.50 x 180 วัดความสามารถในการมองเห็นได้ 8 / 10 คะแนน

ผลการตรวจวัดสายตาอย่างละเอียดพบว่า ค่าสายตาของลูกค้ายังไม่เปลี่ยน แต่คะแนนความสามารถในการมองเห็นดีขึ้นเยอะมาก เพราะลูกค้ากลับไปปฎิบัติตามวิธีรักษาโรคตาขี้เกียจอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของร้าน คือการกระตุ้นตาที่การมองเห็นข้างที่ไม่ดีให้ได้ใช้งานมากขึ้น และปิดตาข้างที่ดีในขณะที่กระตุ้นการมองเห็นของตาอีกข้างอยู่ จนความสามารถในการมองเห็นของลูกค้าดีขึ้นมาก จนหายจากโรคตาขี้เกียจแล้ว แต่ลูกค้ายังต้องปฎิบัติตามวิธีรักษาต่อเพราะยังสามารถมองเห็นได้ชัดขึ้นกว่านี้อีก และทำการนัดติดตามอาการลูกค้าในอีก 6 เดือน

โรคตาขี้เกียจเป็นโรคตาชนิดหนึ่งที่ถ้าตรวจพบเจอได้ตั้งแต่อายุน้อยกว่า 7-8 ปี ก็จะสามารถรักษาจนมีการมองเห็นที่ดีได้ตามปกติได้ง่าย หลังจากนั้นจะยากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น
ผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการความผิดปกติด้วยตัวเอง เช่น การหยีตา หรี่ตามอง อ่านหนังสือ เล่นมือถือชิดตากว่าปกติ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบมาตรวจเช็คค่าสายตาโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาสายตา และวัยเด็กควรมาตรวจวัดสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะปัญหาสายตาส่งผลต่อเสียต่อพัฒนาการในเด็ก

ร้านแว่นตา The Lens มีนักทัศนมาตรเชี่ยวชาญการวัดค่าสายตายากๆ และมีประสบการณ์การแก้ไขค่าสายตาในเด็ก

#เพราะร้านแว่นไม่ใช่ที่ไหนก็ได้

#TheLensเน้นคุณภาพเสมอ