Case Study 54

แว่นตามองเห็นชัดดี แต่ใส่แล้วไม่สบายตา?

ลูกค้าทำธุรกิจส่วนตัว อายุ 41 ปี เข้ามาที่ร้านเพื่อปรึกษาเรื่องแว่นตาสวมใส่ไม่สบาย แต่การมองเห็นในช่วงกลางวันชัดดี แต่กลางคืนมองไกลไม่ชัด ทางร้านจึงเชิญลูกค้าไปตรวจวัดสายตา

ทางร้านวัดสายตาใหม่

R : + 1.00

L : + 1.00

Add : 1.00

แว่นของลูกค้าเป็นแว่น Single Vision ค่าสายตา + 1.50 ทั้งสองตา ซื้อจากร้านแว่นตาสำเร็จรูป ไปหยิบลองใส่แล้วเห็นชัดขึ้นเลยซื้อมาใช้ แต่พอใช้จริงๆกลับพบว่าใส่แล้วไม่สบายตา

ปัญหาของลูกค้าเกิดจากลูกค้าใช้งานแว่นตาผิดประเภท โดยปกติแล้วทุกคนจะมีสายตายาวตามอายุ เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปี ทำให้มีค่าสายตาสองระยะ  ซึ่งลูกค้าท่านนี้มีวิธีแก้ปัญหาสายตาให้มองเห็นได้ชัดทั้งระยะไกลและระยะใกล้อยู่ 3 วิธี

1.แยกแว่นสองตัวเป็นแว่นมองไกล 1 ตัว และ มองใกล้ 1 ตัว

2.เลนส์สองชั้น

3.เลนส์โปรเกรสซีฟ

สำหรับเคสนี้ลูกค้าใช้แว่นที่มีค่าสายตาอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างค่าสายตามองไกลและมองใกล้ มีผลทำให้ลูกค้าเห็นทั้งระยะไกลและระยะใกล้ชัดขึ้นกว่าไม่ใส่แว่น แต่ไม่คมชัดที่สุดเท่าที่ตาสามารถมองเห็นได้ รวมถึงทำให้เกิดความไม่สบายตาเนื่องจากกล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักเกินไปจากการใช้ค่าสายตาไม่ตรงกับค่าสายตาและระยะการใช้งาน

หลังจากที่ลูกค้าได้ทดลองเลนส์ (ที่ The Lens มีเลนส์ทดลองให้ลูกค้าลองทุกประเภท) ที่ใช้แก้ไขปัญหาสายตาทั้งสามวิธีแล้ว ลูกค้าเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาสายตาของลูกค้าด้วยเลนส์โปรเกรสซีฟ

ทางร้านจึงแก้ไขด้วยการปรับสายตาให้ลูกค้าให้ตรงกับค่าสายตาและเลือกใช้เลนส์ Rodenstock แบรนด์เลนส์คุณภาพพรีเมียมจากประเทศเยอรมัน ให้มุมมองภาพที่กว้าง ปรับตัวง่าย ทำให้ปรับตัวได้ง่าย ประกอบกับสารเคลือบหน้าเลนส์ Solitaire® LayR มีคุณสมบัติลดแสงสะท้อนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 50% ป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันการเกาะติดของคราบสกปรก ตัวเลนส์จึงใส ใส่ง่ายสบายตา และไร้แสงสะท้อนรบกวน ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ใช้เลนส์แว่นตาที่แก้ปัญหาสายตาของลูกค้าได้ถูกวิธี ทำให้ลูกค้าได้มองเห็นชัดที่สุดในทุกระยะ แก้ไขการมองเห็นไม่ชัดตอนกลางคืน ใส่แว่นตาได้อย่างสบายตา

#เพราะร้านแว่นไม่ใช่ที่ไหนก็ได้

#TheLensเน้นคุณภาพเสมอ