Skip to main content

Case Study 28

ลูกค้าเป็นนักเรียน อายุ 18 ปี เข้ามาที่ร้านด้วยปัญหา แว่นตาที่ใช้มองเห็นไม่ชัด และรู้สึกแว่นเดิมใส่ไม่ค่อยสบาย เพราะสาเหตุ ดังนี้

1.แว่นเดิมมีน้ำหนักมาก ทำให้กดจมูกจนเป็นรอยช้ำ และรู้สึกปวดบริเวณจมูก

2. อยากได้แว่นที่ใส่แล้วสบายตา

แว่นเดิมของลูกค้า

R : - 4.25 - 2.00 x 174

L : - 2.50 - 2.75 x 177

ทางร้านวัดสายตาใหม่

R : - 4.75 - 4.00 x 180

L : - 2.75 - 4.00 x 175

ผลการวัดสายตาแบบละเอียด พบว่า ลูกค้ามีค่าสายตาเอียงถึง 4.00 ทั้ง 2 ข้าง (ค่าสายตาเอียงมากกว่า 2.00 ถือว่าเยอะกว่าปกติ) จึงทำให้ลูกค้ามองเห็นได้ไม่คมชัดทั้งระยะไกล และระยะใกล้ ทางร้านจึงทำการปรับค่าสายตาของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะสม เราใช้ประสบการณ์ ความชำนาญในการจ่ายค่าสายตาในเคสยากทำให้ลูกค้าได้แว่นตาที่คมชัดขึ้น และสบายตา ทางร้านเลือกใช้เลนส์ SeeMax Infinite Index 1.74 เลนส์ Single Vision ตัวท็อปจากแบรนด์ Nikon ที่ใช้เทคโนโลยีการขัดเลนส์พิเศษทั้งหมด 8 แนวแกน ลดภาพบิดเบือนด้านข้าง ทำให้เกิดมุมมองของการมองเห็นที่ดีที่สุดในทุกๆจุดบนเลนส์แว่นตา ทำให้ลูกค้าเห็นภาพคมชัด และสบายตาที่สุด

ต่างจากเลนส์ธรรมดาทั่วไป ที่จะเห็นภาพชัดที่สุดตรงบริเวณจุดโฟกัสตรงกลางของเลนส์ แล้วจะค่อยๆ แย่ลงเมื่อออกห่างจากจุดศูนย์กลาง และเกิดความบิดเบือนของภาพ ทำให้การมองเห็นแย่ลง เมื่อภาพบิดเบือนด้านข้างหายไป ความไม่สบายตาเวลาเหลือบมองด้านข้างก็จะหายไปด้วย

สำหรับคนที่มีค่าสายตาเยอะๆ รวมถึงเป็นเลนส์เฉพาะบุคคลออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับตาของลูกค้ามากที่สุด บวกกับกรอบแว่นแบรนด์ Jill Stuart แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมทั้งตัว ให้น้ำหนักเบา ทนทาน ไม่เป็นสนิม ดีไซน์หรูหรา ทันสมัย เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

#เพราะร้านแว่นไม่ใช่ที่ไหนก็ได้

#TheLensเน้นคุณภาพเสมอ