ลูกค้าเป็นนักเรียนอายุ 12 ปี เข้ามาที่ร้านเพื่อปรึกษาปัญหาแว่นสายตาใหม่เนื่องจากแว่นที่เพิ่งไปตัดมาใหม่ (จากร้านอื่น) ใช้แล้วรู้สึกปวดหัว ปวดตา เป็นระยะๆ
ทางร้านจึงได้ซักถามการใช้งานแว่นตาของลูกค้าเพิ่มเติมหลังจากนั้นจึงเชิญลูกค้าไปวัดสายตาใหม่
แว่นสายตาเดิมของลูกค้า
R : - 2.50
L : - 2.00
ทางร้านทำการวัดสายตาใหม่
R : plano
L : plano
ทางร้านลองให้ลูกค้าใช้ตาเปล่าอ่านตัวหนังสือระยะมาตรฐานได้คะแนน 10/10 ทั้งสองตา
ใช้วิธีการตรวจวัดสายตรวมทั้งหมด 4 วิธีเพื่อคอนเฟิร์มว่าลูกค้าไม่มีสายตาสั้น
จนได้สรุปผลการวัดสายตาแบบละเอียด ออกมาว่าลูกค้าสายตาปกติดี ไม่มีค่าสายตา
สาเหตุของการวัดสายตาเกินกว่าความเป็นจริงมาจากการที่กล้ามเนื้อตาของลูกค้าต้องเพ่งเยอะ จากการที่ลูกค้าใช้งานหน้าจอคอมจอมือถือเยอะมากๆ ในการเรียนหนังสือ มากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้เวลาวัดสายตาจะต้องมีการคลายกำลังเพ่งก่อน ซึ่งเป็นเทคนิคที่นักทัศนมาตรร้าน The lens ใช้กัน หลังจากนั้นจึงจะเริ่มวัดสายตาแบบละเอียดและใช้วิธีการตรวจหลายวิธีเพื่อยืนยันค่าสายตาที่แท้จริง จึงทำให้ได้ค่าที่แม่นยำ
ทางร้านเดอะเลนส์แก้ปัญหาให้ลูกค้าด้วยการเปลี่ยนเป็นเลนส์ที่ไม่มีค่าสายตา และสามารถกรองแสงสีฟ้าแบรนด์ Tokai Type Lutina ซึ่งสามารถกรองแสงสีฟ้าได้ดีที่สุดในท้องตลาด ทำให้ระบบการมองเห็นและระบบกล้ามเนื้อตาของลูกค้าไม่ต้องทำงานหนักจากค่าสายตาที่เยอะเกินไป ทำให้ลูกค้ามีการมองเห็นที่ชัดและสบายตาที่สุด
ผลเสียจากการที่ใส่แว่นสายตาที่มีค่ามากเกินกว่าค่าสายตาจริงๆนั้น ในระยะสั้น คือจะมีอาการตึงๆหรือปวดบริเวณขมับ หัวคิ้ว เบ้าตา อาจปวดร้าวลามไปที่กระโหลกส่วนท้ายและลามไปที่บริเวณท้ายทอย จนทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อยล้า ดวงตาได้
ในระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานร่วมกันของตาทั้งสองตา ภาวะเหล่เข้าซ่อนเร้น, เลนส์แก้วตาล้า, แรงดึงออกของกล้ามเนื้ออ่อนแรง, เปลี่ยนระยะโฟกัสช้า, ไม่สามารถเพ่งดูใกล้ต่อเนื่องได้นาน